Single Cuff
การพับแบบ Single Cuff หรือ Clean Cuff คือกการพับขาของกางเกงยีนส์ริมแดงขึ้นมาประมาณ 1 นิ้ว การพับขากางเกงยีนส์ริมแดงแบบนี้จะเหมาะกับการแต่งตัวสไตล์มินิมอล หรือลุคแคชชวลสบายๆ และแมทช์กับรองเท้าหนัง หรือรองเท้าผ้าใบเรียบๆ สักคู่
Long Cuff
การพับสไตล์ James Dean หรือการพับแบบ Long Cuff เคยฮิตในสมัยก่อนมากๆ เป็นที่นิยมในกลุ่มคนงาน (Worker) แต่ปัจจุบันการพับแบบนี้ค่อนข้างนิยมในกลุ่มชาวไบค์เกอร์มากกว่า เพราะว่าการพับแบบนี้มักจะนิยมใส่กับพวกรองเท้าบูททั้งหลาย โดยการพับแบบ Long Cuff จะพับกันอยู่ที่ประมาณ 2 นิ้ว ส่วนสไตล์การแต่งตัวก็จะเหมาะกับการแต่งตัวสไตล์ไบค์เกอร์ หรือกลุ่มคนที่แต่งตัวแนววินเทจ ก็จะได้ลุคที่เท่ๆ
โดยวิธีการพับแบบ Double Cuff จะต้องพับแบบ Long Cuff ก่อน ก็คือการพับปลายขากางเกงยีนส์ริมแดงขึ้นมาประมาณ 1 นิ้ว แล้วจึงพับอีกทบให้ปลายขาของกางเกงมาอยู่บริเวณใต้เส้นด้าย การพับลักษณะนี้จะช่วยให้กางเกงที่เป็นทรง Slim หรือ Tapered ยังคงสวยอยู่ทรงเหมือนเดิม แต่ระวังสักนิด การพับแบบนี้จะทำให้ขาเราดูสั้นลง ไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ขาสั้นเท่าไหร่
สไตล์การพับขากางเกงยีนส์ริมแดงแบบนี้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบการพับปลายขากางเกงยีนส์แบบเล็ก ๆ โดยจะพับ 2-3 ทบ ประมาณ ½ นิ้ว พับทบแรกอาจจะพับให้พอดีกับเส้นด้ายตรงปลายขา วิธีการพับในรูปแบบนี้จะเหมาะกับกางเกงยีนส์ที่มีจำนวนออนซ์ (Oz.) น้อยๆ เช่น กางเกงยีนส์ริมแดง (Selvedge) เป็นต้น และเหมาะกับกางเกงยีนส์ที่มีความยาวพอดีข้อเท้ามากกว่า การพับสไตล์นี้อาจจะเหมาะกับกลุ่มคนที่แต่งตัวแนวฮิปเตอร์ (Hipster) และจะเหมาะกับรองเท้าผ้าใบมากกว่ารองเท้าบูท
ถ้าหากใครที่อยากจะโชว์สนีกเกอร์สุดชิคของคุณ การเลือกพับแบบ Pinroll Cuff เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับคุณมาก เป็นการพับสไตล์แบบ Jogger Pants ที่คล้ายกับกางเกงขาจั๊ม แต่ขั้นตอนการพับอาจจะยากมากกว่าวิธีอื่นๆ สักนิด โดยจะเริ่มจากการพับทบตะเข็บด้านในให้ได้ความกว้างตามที่เราต้องการ จากนั้นจับรอยพับให้เรียบแล้วพับขึ้นอีก 1 ทบ และอย่าปล่อยช่วงที่พับตะเข็บด้านใน จัดผ้าให้เรียบร้อยแล้วพับขึ้นอีกทบก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ข้อแนะนำสำหรับการพับแบบ Pinroll Cuff ควรพับตอนใส่กางเกงยีนส์ริมแดงแล้ว เพราะความกว้างในตอนพับจะพอดีกับข้อเท้ามากกว่า และไม่ควรพับกับกางเกงยีนส์ที่เป็นกางเกงยีนส์ที่ปลายขาตรง เหมาะกับกางเกงยีนส์ทรง Slim หรือ Tapered มากกว่า